"ไมเคิล คอลลินส์" นักบินอวกาศผู้ถูกลืม 

ในภารกิจลงดวงจันทร์ครั้งแรกของมนุษยชาติ


        หลังจากเหยียบพื้นผิวดวงจันทร์ได้เป็นคนแรกแล้วกลับสู่โลก "นีล อาร์มสตรอง" ก็ดังเป็นพลุแตก เขากลายเป็นหนึ่งในข้อสอบที่เด็กๆ ท่องกัน ขณะที่ "บัซ อัลดริน" ผู้ร่วมสำรวจดวงจันทร์กับเขาเมื่อ 40 ปีที่แล้วก็โดดเด่นเคียงคู่กัน หลายคนแทบจะนึกชื่อของเขาไม่ออก และไม่ทราบว่า "ไมเคิล คอลลินส์" (Michael Collins) คือนักบินอวกาศอีกคนที่เดินทางไปกับยานอพอลโล 11 (Apollo11) ซึ่งส่งคนไปเหยียบพื้นผิวดวงจันทร์ได้เป็นครั้งแรกเมื่อ 40 ปีก่อน และคงไม่ทราบถึงความหวาดกลัวที่เกาะกุมหัวใจของเขา ขณะนำยานโคลัมเบียซึ่งเป็นยานแม่ ในเที่ยวบินดังกล่าวบินผ่านพื้นผิวดวงจันทร์ไป

การรอคอยที่แสนยาวนาน


    หลังจากที่ทั่วทั้งโลกเฉลิมฉลองการได้เห็นมนุษย์ก้าวลงเดินบนโลกอีกใบกันไปแล้ว ชายคนหนึ่งในวงโคจรรอบดวงจันทร์ก็กำลังเฝ้าคอยเพื่อน ๆ ทั้งสองของเขาอย่างมีความหวัง และสิ่งเดียวที่เขาอยากได้ยินในเวลานั้นก็คือ ทั้งอาร์มสตรองและอัลดรินสามารถกลับขึ้นมาจากพื้นผิวดวงจันทร์ได้อย่างปลอดภัย ซึ่งนั่นจะช่วยให้เขาโล่งใจจากความคิดที่ว่า คอลลินส์จะเป็นผู้รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียวของภารกิจอพอลโล 11 ที่จบลงด้วยการสูญเสียของชายสองคนแรกบนดวงจันทร์ และเมื่อกลับถึงโลก ก็คงยากที่จะนึกว่าเขาจะโดนตราหน้าอย่างไรบ้าง ที่ทิ้งเพื่อนทั้งสองของเขาให้ตายอยู่บนดาวต่างดวง…

     ในช่วงเวลานั้นอัตราความสำเร็จต่อความล้มเหลวของภารกิจอพอลโล 11 อยู่ที่ 50:50 เลยทีเดียว ความเสี่ยงนั้นสูงมาก ๆ ในระดับที่     ริชาร์ด นิกสัน ประธานาธิบดีสหรัฐในเวลานั้น ถึงกับต้องเตรียมบทพูดในกรณีที่ทั้งอาร์มสตรองกับอัลดรินไม่สามารถกลับโลกไว้เลย

          ยานลงดวงจันทร์ ขณะกลับมาจากพื้นผิวดวงจันทร์ ซึ่งในตอนที่ภาพนี้ถูกถ่ายขึ้น คอลลินส์คือคน ๆ เดียว ที่มีชีวิตอยู่ในวินาทีนั้น ที่ไม่ได้อยู่ในภาพ ๆ นี้ (ที่มา NASA)

       วินาทีที่อาร์มสตรองกดจุดเครื่องยนต์ของส่วนบน (Ascent Stage) ของยานลงดวงจันทร์ (Lunar Module) ได้สำเร็จ ความกลัวอันสูงสุดในจิตใจของคอลลินส์ไม่เกิดขึ้นจริง และลูกเรือทั้งสามของอพอลโล 11 ก็ได้เดินทางกลับโลกอย่างปลอดภัย พร้อมกับการต้อนรับอย่างวีรบุรุษ

จากผู้เกือบถูกตราหน้า มาเป็นผู้ถูกลืม


        เรื่องราวการลงดวงจันทร์ครั้งแรกถูกพูดถึงในทุกมุมโลก ผู้คนจำได้ว่าชายคนแรกที่ลงดวงจันทร์ชื่อว่าอะไร อีกคนที่อยู่บนนั้นคือใคร คำแรกที่ถูกพูดบนนั้นคือคำไหน แต่ชื่อของอีกคนบนวงโคจรมักจะถูกมองข้ามไปในหลาย ๆ ครั้ง แต่คอลลินส์เองก็ไม่ได้ถือโกรธหรือน้อยใจที่ต้องคอยอยู่ภายใต้เงาของแสงไฟ แต่กลับให้สัมภาษณ์กับ The Guadian ว่าการที่เขาได้เป็นส่วนสำคัญในภารกิจนี้ “ถือเป็นเกียรติอันสูงส่ง” ของเขาอีกด้วย

      ตามความเป็นจริงแล้ว คอลลินส์เองต้องได้กลับไปลงเดินบนดวงจันทร์อีกครั้ง ในฐานะผู้บัญชาการของภารกิจอพอลโล 17 แต่ก็ได้ปฏิเสธข้อเสนอที่หลายคนใคร่ปรารถนานี้ไป เนื่องจากการฝึกซ้อมเป็นนักบินอวกาศนั้นทำให้เวลาของเขากับครอบครัวมีน้อยลง และเขาต้องการแค่เป็นส่วนหนึ่งที่ผลักดันให้นาซาดำเนินการตามความต้องการของจอห์น เอฟ เคนเนดี อดีตประธานาธิบดีของสหรัฐ ที่อยากให้ประเทศของเขาส่งมนุษย์ไปลงเดินบนดวงจันทร์ และกลับโลกอย่างปอลดภัย ก่อนจะจบปี 1969 ลงได้ก็เท่านั้น คอลลินส์หันหลังให้การไปอวกาศ


เขาถูกทำให้เชื่อมั่นในเครื่องยนต์ของยาน "อีเกิล" (Eagle) ที่นำอาร์มสตรองและอัลดรินสู่พื้นผิวดวงจันทร์ แต่เครื่องยนต์ดังกล่าว ไม่เคยเดินบนพื้นผิวของดวงจันทร์มาก่อน และนักบินอวกาศหลายคน ต่างสงสัยในความสามารถของเครื่องยนต์


เป็นไปได้ที่เครื่องยนต์จะล้มเหลวในการจุดระเบิด แล้วอาร์มสตรองกับอัลดรินต้องติดอยู่บนดวงจันทร์ และเสียชีวิตเมื่อออกซิเจนของพวกเขาหมด หรือถ้าล้มเหลวในการจุดระเบิดภายใน 7 นาที มนุษย์อวกาศทั้งสองก็มีสิทธิ์โหม่งพื้นดวงจันทร์ หรือไม่ก็ถึงวงโคจรที่ต่ำเกินกว่าจะเชื่อมต่อกับคอลลินส์ในยานโคลัมเบียซึ่งเป็นยานแม่ได้ 


มนุษย์อวกาศทั้งสามของอพอลโล 11 เชื่อว่ามีโอกาสที่จะเป็นเช่นนี้ได้ โดยอาร์มสตรองคิดว่าเขามีโอกาส 50-50 ที่จะกลับโลกได้ เช่นเดียวกับคอลลินส์ผู้ขับยานแม่ และเป็นหนึ่งในคนที่มีประสบการณ์บินมากที่สุดในโลก


ไม่เพียงแค่นักบินอวกาศ แม้แต่ ริชาร์ด นิกสัน (Richard Nixon) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยุคนั้น ยังได้เตรียมสุนทรพจน์ในกรณีที่ยานอีเกิลเกิดล้มเหลวในการจุดระเบิดเครื่องยนต์ไว้ด้วยว่า "โชคชะตาได้กำหนดให้มนุษย์ทั้งสองไปดวงจันทร์เพื่อสำรวจอย่างสงบ และจะพักอยู่บนดวงจันทร์ต่อไปอย่างสงบ มนุษย์ผู้กล้าทั้งสองอาร์มสตรอง และอัลดริน ต่างทราบดีว่าไม่มีหวังที่จะได้กลับคืนมา แต่พวกเขาต่างทราบดีว่ามนุษยชาติมีความหวังต่อการเสียสละของพวกเขา"


ดังนั้น คอลลินส์จึงอยู่เพียงลำพังในยานโคลัมเบีย ขณะที่ทั้งโลกพุ่งความสนใจไปที่อาร์มสตรองและอัลดริน ที่เดินย่ำไปบนพื้นผิวของดวงจันทร์


ส่วนเขาก็ได้แต่กลัดกลุ้มถึงเพื่อนร่วมเดินทางของเขาทั้งสอง ซึ่งอยู่เบื้องล่างลงไปบนพื้นผิวดวงจันทร์ และเขากำลังเหงื่อตกเหมือนเจ้าสาวที่กำลังประหม่า ขณะรอคอยที่จะได้ยินเสียงสัญญาณจากยานอีเกิล อีกทั้งตอนนั้นเขายังได้เขียนแสดงความรู้สึกขณะนั้นด้วย


"ความหวาดกลัวลึกๆ ของผมตลอด 6 เดือน คือการทิ้งพวกเขาไว้บนดวงจันทร์แล้วกลับสู่โลกเพียงลำพัง และภายในไม่กี่นาทีนั้น ผมกำลังจะได้พบว่ามันจะเป็นจริงหรือไม่ หากพวกเขาล้มเหลวที่จะทะยานขึ้นจากพื้นผิว หรือตกกลับไปโหม่งพื้น ผมไม่สาบานหรอกว่าจะฆ่าตัวตาย ผมจะกลับบ้านในทันที แต่ผมจะกลายเป็น "ผู้มีรอยแผล" ไปตลอดชีวิต และผมรู้ดี" คอลลินส์เขียนระบายความรู้สึกขณะอยู่ในยานแม่เพียงลำพัง


จากนั้นอาร์มสตรองและอัลดรินได้เตรียมความพร้อมยานลงจอดของพวกเขาเพื่อทะยานขึ้น อาร์มสตรองกดปุ่มจุดระเบิดเครื่องยนต์ และยานอีเกิลก็ส่งเสียงคำรามอย่างสมบูรณ์แบบเหนือพื้นผิวดวงจันทร์ มุ่งหน้ามาหาคอลลินส์ที่คอยอยู่


ความกล้วอันเลวร้ายที่สุดของเขาไม่กลายเป็นจริง และเขาได้กลับบ้านพร้อมอาร์มสตอรงและอัลดรินเพื่อนร่วมทางอย่างปลอดภัย โดยไม่มีประสบการ์ณอันบอบช้ำ และเขาไม่ต้องเป็นทุกข์กับการเผชิญชื่อเสียงที่ไม่ดีบนโลก


หากแต่ในความเป็นจริง สิ่งที่เกิดขึ้นตรงข้าม คอลลินส์ถูกลืม ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่รู้จักชื่อมนุษย์ 2 คนแรกบนดวงจันทร์ และคำพูดของอาร์มสตรองซึ่งกล่าวถึงก้าวกระโดดที่ยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ


แต่ชื่อ "ไมเคิล คอลลินส์" ถูกพูดถึงน้อยมาก แม้ว่าเขาจะมีบทบาทสำคัญต่อเที่ยวบินประวัติศาสตร์ของอพอลโล 11 ก็ตาม ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้น้อยใจและเพิ่งเปิดเผยเมื่อเร็วๆ นี้ว่า "นั่นเป็นเกียรติแล้ว" 

คอลลินส์จึงกลายเป็นนักเดินทางโดดเดี่ยว ผู้เดินทางไกลที่สุดในโลก โดยถูกแยกเดี่ยวจากมนุษ์ทั้งโลกเป็นระยะทาง 400,000 กิโลเมตร ด้วยอวกาศและความใหญ่ของดวงจันทร์ ซึ่งดวงจันทร์นี่เองที่กั้นสัญญาณวิทยุจากศูนย์ปฏิบัติการควบคุม เขาถูกตัดขาดสัญญาณ และขาดการติดต่อกับดาวเคราะห์ที่เป็นบ้านหลังใหญ่ของเขา


"ตอนนี้ผมโดดเดี่ยวจริงๆ และโดดเดี่ยวอย่างสิ้นเชิงจากสิ่งมีชีวิตใดๆ ที่รู้จัก ผมคือสิ่งมีชีวิตเดียวที่ผมรู้จัก" คอลลินส์เขียนไว้ ขณะอยู่ในยานอย่างโดดเดี่ยวครั้งนั้น และลินด์เบิร์กได้ย้ำอีกทีว่าสิ่งที่เขาเขียนนั้น "จริงที่สุด"


ความโดดเดี่ยวที่ว่า นี้ย่อมทำให้คนส่วนใหญ่ตื่นตระหนก แต่ไม่ใช่สำหรับคอลลินส์ เขาเผยความรู้สึกส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้น ในวันที่เขาโดดเดี่ยวอยู่ในวงโคจรของดวงจันทร์ว่า เขารู้สึกปิติยินดี และเพลิดเพลินกับเวลาที่กลายเป็นสมาชิกโดดเดี่ยวที่สุดของเผ่าพันธุ์มนุษย์ 


ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก : https://mgronline.com/science/detail/9520000082050

ขอบคุณบทเพลงที่มอบให้คุณไมเคิล คอลลินส์ จาก : https://www.youtube.com/watch?v=dcbku6B6mqU